ทดสอบก่อนเรียน
บทที่ 1 Everyday English
บทที่ 2 What should you do?
บทที่ 3 Hello, could you tell me……?
1 of 4

การออกเสียงตามระดับเสียง สูง-ต่ำ

เรื่องที่ 3.1 น้ำเสียงหรือทำนองเสียง (intonation) คือ ระดับเสียงสูงต่ำภายในประโยค ใน การพูดภาษาอังกฤษ น้ำเสียง (intonation) เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นส่วนที่ใช้บอกความหมาย เจตนาของผู้พูดและลักษณะของประโยค ถ้าผู้พูดใช้ระดับเสียงผิดหรือน้ำเสียงผิด เช่น ควรใช้ระดับเสียงปกติกลับไปใช้ระดับเสียงสูง อาจทำให้ผู้ฟังเข้าใจเจตนาของผู้พูดและแปลความหมายของคำพูดแตกต่างออกไปได้ ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งของการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร

(หลักการใช้น้ำเสียง)
น้ำเสียงหรือทำนองเสียง (intonation) มีองค์ประกอบ 2 ประการ คือ ระดับเสียง (pitch levels) และประเภทของน้ำเสียง (intonation)
1. ระดับเสียง (pitch levels)
1.1 ระดับเสียงสูงพิเศษ (Extra – high pitch level)
1.2 ระดับเสียงสูง (High pitch level)
1.3 ระดับเสียงปกติ (Normal pitch level)
1.4 ระดับเสียงต่ำ (Low pitch level)

2. ประเภทของน้ำเสียง (intonation)
โดยทั่วไปในการออกเสียงเรามักแบ่งประเภทของน้ำเสียง (intonation) ภายในประโยค เป็น 4 ประเภท คือ
2.1 น้ำเสียงลดต่ำ (Falling intonation or Gliding down) เป็นน้ำเสียงที่มีระดับเสียงลดหลั่นลงมาเป็นระดับที่ 1 เหมือนการลงบันได
2.2 น้ำเสียงไต่ขึ้น (Rising intonation or Gliding up) เป็นน้ำเสียงที่เริ่มจากระดับปกติ และสูงขึ้นเป็นลำดับขั้น
2.3 น้ำเสียงพุ่งขึ้น (Take off) เป็นน้ำเสียงที่มีการเปลี่ยนแปลงของระดับเสียงจากต่ำสุดไปสูงสุดหรือจากระดับปกติไปยังระดับสูงสุดอย่างรวดเร็วคล้ายอาการของเครื่องบิน หรือจรวดที่พุ่งตัวจากพื้นดินสู่ฟ้าในแนวดิ่งอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนระดับเสียงจะเปลี่ยนจากระดับ 1 เป็น 3 ทันที มักใช้ในประโยคคำถามแบบลดรูป
2.4 น้ำเสียงดิ่งลง (Diving or Falling – Rising) เป็นน้ำเสียงที่มี การเปลี่ยนแปลงของระดับเสียงจากสูงลงสู่ระดับต่ำทันที คล้ายอาการของคนที่พุ่งตัวดำดิ่งลึกลงไปใต้น้ำและดำโผล่ขึ้นสู่ผิวน้ำอย่างรวดเร็ว เสียง Diving มักใช้ในคำเตือน (warning)